Wednesday, March 27, 2019

ดี-ชั่ว ใครตัดสิน เอาอะไรมาวัด?

จากที่ลงธรรมบรรยายของ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป. อ. ปยุตฺโต) ใน Facebook ดังนี้
พอถึงวันเลือกตั้ง เราตัดสินใจด้วยธรรมาธิปไตย เลือกใครล่ะ ก็ใช้ปัญญาพิจารณาตรวจตราไล่ดูให้ชัดที่สุด ใครพรรคไหนเป็นคนดีมีธรรม มีปัญญา ซื่อสัตย์สุจริต มุ่งทำประโยชน์แก่ส่วนรวมแน่นอน ก็ได้ตัวเลย บอกว่าคนนี้เป็น “ผู้แทน” ของเราได้

ผู้แทนเป็นอย่างไร ก็แสดงว่า ผู้เลือกคงเป็นอย่างนั้น

ถ้าผู้เลือกเป็นคนดี ก็คงได้ผู้แทนที่เป็นคนดี

ถ้าผู้แทนชั่ว ก็ต้องสงสัยไว้ก่อนว่าผู้เลือกก็คงจะชั่ว หรือมีคุณภาพต่ำ

มองไปได้ถึงทั้งประเทศ คนชาติอื่นมองดูที่ ส.ส. ไทย แล้วบอกว่า คนไทยก็คืออย่างนี้

.:. สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป. อ. ปยุตฺโต) .:.

[ประชาธิปไตย ไม่ยาก ถ้าอยากได้(๑๒๑)]

ก็มีผู้หนึ่งถามต่อจากผู้ที่ share ว่า " ปัญหาคือ ดี-ชั่ว ใครตัดสิน?? เอาอะไรมาเป็นไม้บรรทัดในการวัด? และก็มีผู้มากด Like เห็นชอบด้วย



ดี-ชั่ว เดี๋ยวนี้เห็นหลายคนก็จะมีคำถามในลักษณะอย่างนี้ คือรู้เองไม่ได้ ไม่รู้จะเอาอะไรมาตัดสิน ก็เลยคิดว่าต้องตอบ เพื่ออย่างน้อยก็พอชี้ช่องได้ เป็นแนวคิดต่อได้บาง ดีกว่าปล่อยให้ไปตั้งคำถามกันแบบไม่รู้เรื่อง จนกลายไปเป็นประชดประชันไป จึงตอบไปอย่างนี้

" การได้สั่งสมปัญญาประกอบเจตจำนงที่ดี รู้จักฝึกคิดวิภัชชวาท ก็จะรู้ได้เองว่า "ธรรม" นั้นเองเป็นตัววัด ดี-ชั่ว จึงไม่ต้องมีใครมาตัดสินให้ แม้มีคนมาบอกให้แต่ถ้ามีอคติ๔ ก็ไม่ยอมรับฟัง(เชื่อ-ไม่เชื่ออีกเรื่อง)

ขอยกตัวอย่างขั้นพื้นฐานเช่น วินัยการขับรถ ต่อ
แถวรอเลี้ยวซ้ายกันยาวอย่างเป็นระเบียบอยู่ และแล้วก็มีคันหนึ่งวิ่งมาไหล่ทางซ้าย อีกคันหนึ่งวิ่งมาช่องทางขวาแทรกเบียดเข้าข้างหน้า อย่างนี้เราพอจะพิจารณาตัดสินได้ไหมว่าการกระทำอย่างไหนดี อย่างไหนชั่ว? เราต้องให้ใครมีตัดสินให้ไหม? แล้วเราอะไรเป็นตัววัด?

ขอให้ตัวอย่าง เช่น กายสุจริต วจีสุจริต มโนสุจริต นี่ก็เป็นพื้นฐานของคนดี

การฝึกสิกขาบท ๕ นี่ก็เป็นพื้นฐานของคนดี ช่วยให้สังคมอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบไม่เบียดเบียนกัน

อย่างการตัดสินใจเลือกผู้แทนฯนี้ ลองศึกษาหลักการตัดสินใจแบบ โลกาธิปไตย อัตตาธิปไตย ธรรมาธิปไตย น่าจะเข้าใจได้...

ขอตอบเพียงเท่านี้ก่อน พอจะช่วยแก้ข้อสงสัยนี้ได้ไหมครับ
"

Sunday, March 24, 2019

ปรโตโฆสะ: หลังการเลือกตั้ง 62

จากอาจารย์...

"เมื่อเช้าอ่านนิวยอร์คไทมส์ วอลสตรีท เจอร์นัลและนิกเกอิเอเชียน รีวิวไม่รวมออนไลน์ภาษาไทยและต่างประเทศอื่นๆที่ไม่ต้องเสียเงิน ผมสรุปความได้อย่างนี้ครับ

1.พรรคพลังประชารัฐเป็นแกนนำรัฐบาล ประยุทธ์เป็นนายกฯ ส่วนจะมีพรรคไหนร่วม ก็หนีไม่พ้น ภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ ชาติไทยพัฒนา ชาติพัฒนา เศรษฐกิจใหม่ ฯลฯ เป้าหมาย 280 เสียงจาก500

2.พรรคเพื่อไทยกับอนาคตใหม่จะเป็นแกนนำฝ่ายค้าน มีเบ็ดเตล็ดเพิ่มนิดหน่อย อันนี้ต้องการประกาศผลอย่างไม่เป็นทางการนับครบร้อยเปอร์เซนต์ของกกต.บ่ายนี้ถึงชัดเจนว่าจะมีกี่พรรคและจะจัดสรรโควต้ารัฐมนตรีกันอย่างไร เพราะส.ส.บัฐชีรายชื่อน่าจะคำนวณยากอยู่

3.กกต.จะรับรองส.ส.เขตเลือกตั้งให้ได้ 333 เขตและส.ส.บัญชีรายชื่อ 142 คนเพื่อให้ครบ475 คนสำหรับส.ส.และควบคู่ไปกับส.ส.ทางคสช.ก็จะประกาศส.ว.250คน เพื่อเปิดรัฐสภาประชุมเลือกนายกรัฐมนตรีหลังงานพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ

4.ผมเชื่อ ย้ำว่าเชื่อ การประกาศส.ส.และส.ว.จะมีก่อนงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกช่วง4-6พฤษภาคมครับ ไม่งั้นจะฉุกละหุกเรื่องครบ150วันในวันที่9พฤษภาคม แล้วก็มีกรอบเรื่องรับรองผลส.ส.อย่างเป็นทางการภายใน60วันนับจากวันเลือกตั้งล็อคเอาไว้ด้วย

ปรากฏการณ์ขาขึ้นของ”อนาคตใหม่” และขาลงของ “ประชาธิปัตย์” คราวนี้น่าสนใจเป็นอันมาก แต่ผมยังไม่อยากจะวิเคราะห์อะไร อยากฟังคนอื่นด้วย

ส่วนการขึ้นมาของ “พลังประชารัฐ” นั้น น่าสนใจว่าใช้"เงิน"มากน้อยแค่ไหน?

ส่วน “เพื่อไทย” นั้นผมบอกได้เลยว่าเป็นขาลงของคุณทักษิณกับคณะและบริวารอย่างแท้จริงครับ นี่เป็นการสู้ครั้งสุดท้ายแล้ว  เนวิน-สมศักดิ์-สุริยะ ที่ปลีกตัวออกมาจะทำให้เกิดแรงดึงให้ปลีกตัวออกมาอีกในอนาคตอย่างแน่นอน ที่จริงภายในเพื่อไทย-ไทยรักษาชาติที่ถูกยุบไป-ก็มีการต่อสู้ภายในรุนแรงมาก แสดงให้เห็นทักษิณคุมเกมไม่ได้เต็มที่เหมือนแต่ก่อน

ส่วนประชาธิปัตย์คงต้องยกเครื่องฟื้นฟูกันใหม่ ผมคิดว่าเป็นบทเรียนที่ดีที่ต้องปรับตัวเองครั้งใหญ่ถ้าหากจะรักษาพื้นที่ทางการเมืองเอาไว้ในอนาคต

สำหรับการเมืองแบบมวลชนไม่ว่า พธม. นปช. กปปส. ต้องบอกว่าจบแล้ว ไม่สามารถยกระดับเป็นพรรคการเมืองในเกมการเลือกตั้งได้อย่างแน่นอน แต่ต่อไปจะมีกลุ่มเคลื่อนไหวกลุ่มไหนมาแนวฮาร์ดคอร์แบบนี้อีกหรือเปล่าต้องดูกันต่อไปครับ


ส่วนหนังสือพิมพ์เช้านี้ เละตุ้มเปะครับ

แค่คะแนนที่แต่ละพรรคได้ ทั้งเขตเลือกตั้งและบัญชีรายชื่อ ยังสับสนอลหม่านไปหมดแบบนี้ สะท้อนว่าสื่อสิ่งพิมพ์ก็หวังพึ่งอะไรไม่ได้อีกต่อไปเหมือนกัน ส่วนทีวีและวิทยุนักข่าวและกองกลางในสำนักงานที่บริหารข่าว คุณภาพลดลงอย่างน่าใจหายจริงๆ  ผมสัมผัสแล้วก็สิ้นหวังครับ เพราะความเป็นเลิศทางวิชาชีพและความเป็นเลิศทางวิชาการต่ำกว่ามาตรฐานมาก

ต้นทางสับสน คนดูคนฟังคนอ่านก็จับแพะชนแกะไปเท่านั้นเอง น่าเป็นห่วงครับ

ป.ล. ถ้าการเลือกตั้งเป็นโมฆะก็อย่าตกใจนะครับ บอกเสียก่อน

Friday, March 22, 2019

เก็บจากผู้รู้คุยถึงว่าที่นายกฯทั้งห้า

ขอนำเสนอข้อคิดจากท่านผู้ใหญ่ที่ผมถือเป็นกัลยาณมิตร

คุยเรื่องห้าคนนี้ให้ฟัง...
ประยุทธ์ จันทร์โอชา, อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ, สุดารัตน์ เกยุราพันธ์ , ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และอนุทิน ชาญวีรกุล

ขออนุญาตเริ่มเลยก็แล้วกัน

คุณประยุทธ์ - อายุ 64 ปี เป็นนายกรัฐมนตรี  และ  หัวหน้าคสช. มาจะครบห้าปีเต็ม  หลังการเลือกตั้ง ขุมกำลังสนับสนุนสำคัญและทำให้สยบทุกอย่างได้  ก็คือ  กองทัพบก  ส่วนในแง่ฝีไม้ลายมือและสติปัญญา  ต้องถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ แต่ในแง่อำนาจที่มีอยู่ในมือ  ต้องถือว่าเกินพิกัดเมื่อเทียบกับคนอื่น ข้อดีคือ  ไม่มีเรื่องเสียหายส่วนตัว แต่ข้อเสียที่น่าเป็นห่วงที่สุด  ก็คือ  มองอะไรแค่คนรอบข้างรอบตัวเท่านั้น
ถ้าจะเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปแล้วไม่ปรับเปลี่ยนอะไรเลย
เป็นยาก


คุณสุดารัตน์ - อายุ 57 ปี  ทำงานการเมืองต่อเนื่องยาวนาน ตั้งแต่ยุคพรรคพลังธรรมที่มี จำลอง ศรีเมือง  เป็นหัวหน้าพรรค แต่ทำงานเข้าขากับ ทักษิณ ชินวัตร  ได้เป็นอย่างดี  ตั้งแต่ไทยรักไทยจนถึง  เพื่อไทย  ในแง่สติปัญญาต้องถือว่าเป็นระดับกลางบน ผ่านงานการเมืองหลากหลาย แต่การที่ถูกมองข้ามทุกครั้งในการสนับสนุนให้เป็นหัวหน้าพรรค  และนายกรัฐมนตรีในช่วงที่ขึ้นสูงสุด ทำให้โอกาสในคราวนี้มีไม่มากอยู่ดี ปัญหาของสุดารัตน์  คือ  ตราบใดที่ทักษิณยังครอบงำพรรคเพื่อไทยแบบอำพรางซ่อนเร้น ความเบ็ดเสร็จเด็ดขาดย่อมไม่อาจหวังได้
เป็นนายกรัฐมนตรีได้  ก็ต้องประสบชะตากรรมไม่ต่างจาก  ทักษิณ-สมัคร-สมชาย และ ยิ่งลักษณ์ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง


คุณอภิสิทธิ์ - อายุ 54 ปี  ในแง่ที่มาที่ไปบนเส้นทางการเมือง  ตั้งแต่ลงสมัครส.ส.ครั้งแรก  ต้องบอกว่าสวยสดงดงาม ในแง่สติปัญญาถือว่าเป็นระดับบน   ไม่มีใครคิดว่าอภิสิทธิ์จะไม่เป็นนายกรัฐมนตรีในบั้นปลายชีวิตทางการเมือง แต่การเป็นนายกรัฐมนตรีบนสถานการณ์ที่ยุ่งยากที่สุด  ระหว่างปี 2551-2554 ทำให้รู้ว่า  ข้อจำกัดของอภิสิทธิ์อยู่ที่ไหน ที่จริงอภิสิทธิ์ผ่านจุดสูงสุดทางการเมืองไปแล้ว การฮึดเฮือกสุดท้ายคราวนี้ ถ้าหากได้เป็นนี่  จะเป็นการทำหน้าที่นายกฯ ได้ดีที่สุด  ด้วยความพร้อมและประสบการณ์จริง ปัญหาอภิสิทธิ์  คือ  พรรคประชาธิปัตย์ทั้งโครงสร้างและตัวบุคคลที่มีอำนาจแฝงรอบตัว  “ชวน” แน่นอนคนหนึ่งล่ะ ยังดีที่ไม่มี “สุเทพ” ในเวลานี้
ตราบใดที่ยังล้างวาทกรรม  “ดีแต่พูด” ไม่ได้ ทุกอย่างก็เหมือนเดิมสำหรับอภิสิทธิ์และประชาธิปัตย์


คุณธนาธร - อายุ 40 ปี มาได้ถึงจุดนี้จากจุดเริ่มต้นที่ไม่มีอะไรเลยของพรรคอนาคตใหม่ ต้องบอกว่าเป็นการสร้างปรากฏการณ์ใหม่ได้อย่างแท้จริง ในแง่สติปัญญาต้องถือว่าระดับบน   ความมุ่งมั่นและจินตนาการไม่ธรรมดา จริงอยู่อนาคตใหม่อาจจะได้ส.ส.จำนวนหนึ่ง แต่คงไม่มีทางพุ่งทะลุแบบผีพุ่งใต้สู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้ในคราวนี้ แต่ธนาธรจะเป็นส่วนหนึ่งของระบอบรัฐสภาที่เข้มแข็งในอนาคตได้ ถ้าหากไม่เจออุบัติเหตุทางการเมืองเสียก่อน ภายในสิบปีข้างหน้าถ้าหากยังมุ่งมั่นเหมือนเดิม  น่าจะมีโอกาสทำงานใหญ่
ปัญหาคือ  ยังเยาว์วัยไปในสายตาคนจำนวนมาก ประสบการณ์จริงและประสบการณ์ตรงยังน้อย


อนุทิน - อายุ 53 ปี มีทุกอย่างพร้อมหมดในระดับใกล้เคียงกับธนาธร แม้การเมืองกับธุรกิจของอนุทินยากจะแยกออกจากกันได้ก็จริง ในแง่สติปัญญาก็ระดับกลางบนเช่นกัน ปัญหาของอนุทิน  คือ เป็นพันธุ์ผสมของการเมืองแบบเก่ากับการเมืองแบบใหม่ และปัญหาที่แท้จริง  ก็คือ เนวิน ชิดชอบ ซึ่งเป็นผู้มีอิทธิพลภายในพรรคภูมิใจไทย แต่นาทีนี้ก็เป็นจังหวะที่ดีที่สุดของอนุทิน ด้วยจำนวนส.ส.ที่ได้ในระดับเหมาะมือ ทิ้งไพ่ในมือลงไปสามารถทำให้ฝ่ายหนี่งฝ่ายใดชนะหรือแพ้  ตรงนี้เป็นแต้มต่อสำคัญและจะเป็นบทพิสูจน์ว่าอนุทินเหมาะสมกับการจะเป็นนายกรัฐมนตรีในอนาคตหรือไม่ด้วย

Monday, December 29, 2014

น้ำในคลองชลประทานกำลังจะหมด

  มาถึงสวนประมาณ 8.30 น. หมายจะสูบน้ำเข้าสวน  แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะน้ำในคลองบางชันลงต่ำกว่าปลายท่อดูดแล้ว
  ต้องกลับไปซื้อท่อ 3 นิ้ว 2 เส้น ที่ร้านน้าเปี๊ยก เส้นละ 310 บาท ส่วนข้อต่อตรง 3 นิ้วนั้นมีอยู่แล้ว


  เริ่มต่อท่อประมาณบ่ายโมง  ลงไปน้ำลึกถึงระดับสะโพก  แต่เฉพาะเลนก็เกือบจะถึงเข่าแล้ว
  เริ่มจากตัดปลายท่อดูดเพื่อนำฟุตวาล์วมาต่อเข้ากับท่อ 2 ท่อนที่ซื้อมาใหม่  แล้วจึงนำทั้งหมดที่ต่อเข้ากันแล้ว ไปต่อเข้ากับปลายท่อเดิม  ซึ่งการต่อท่อขนาด 3 นิ้วนี้ต้องใช้กำลังในการสวมท่อมาก  เนื่องจากท่อใหญ่การจับจึงไม่ถนัดมือนัก  กอปรกับความหนืดของกาวด้วย  อย่างไรเสียก็ต่อได้จนสำเร็จ
  หลังจากนั้นก็ไปตัดไม้ไผ่ที่ก่อไผ่ซางหม่น ขนาดยาวประมาณ 3 เมตร 3 ลำ เพื่อนำไปปักยึดท่อ  ที่ตัดยาวเพราะต้องการให้ปลายไม้พ้นน้ำเมื่อยามน้ำขึ้นมาในระดับปกติเพื่อแสดงเครื่องหมายว่ามีแนวท่อดูดอยู่บริเวณนี้  เนื่องจากเมื่อปีที่แล้วรถตักมาทำการลอกคลองเก็บผักตบชวาตักท่อขึ้นมาด้วยจนแตกหัก


Monday, May 19, 2014

ต่อท่อรดน้ำต้นไม้เพิ่ม

ปัญหาท่อทีต่อไว้เมื่อปั๊มน้ำเข้า น้ำที่ออกปลายสายแต่ละคันนั้นเบามาก บางคันน้ำไม่ไหลเลย
จึงคิดว่าต้องเพิ่มเลยสายหลัก  แต่ก็มีปัญหาอีกเมื่อหาซื้อข้อต่อสวมล็อคพีอี 40X32X40 ไม่ได้เลย
จึงต้องซื้ออุปกรณ์มาประยุกค์(ยังไม่มีเวลาถ่ายรูป)
ด้วยเวลาอันจำกัด 2 วันพยายามให้เสร็จ เหนื่อยเอาเรื่อง (เอาไว้คราวหน้าจะถ่ายรูปมาใส่)

Sunday, April 13, 2014

กล้วยไข่กำแพงเพชร

วันนี้อากาศแจ่มใส ก็หมายความว่าแดดแรงแน่นอน

เมื่อวานช่วงเย็น ลมแรงจนน่ากลัว ต้องนำรถออกให้ห่างต้นไม้

วันนี้นำกล้วยไข่กำแพงเพชรมาปลูก  หลังจากใช้เวลา 2 วัน ขุดหลุมทั้งหมด 30 หลุม

Sunday, March 30, 2014

ม่วงออกลูกหลายต้น


ต้นที่ 1 หนังกลางวัน(21 ลูก)


ต้นที่ 2 งามเมืองย่า (5 ลูก)

 ต้นที่ 3 ยู่เหวิน (6 ลูก)

 ต้นที่ 4 R2E2 (7 ลูก)


ต้นที่ 5 งามเมืองย่า (10 ลูก)

มะละกอขึ้นเอง

ต้นที่ 6 มหาชนก (2ลูก)

ต้นที่ 7 น้ำดอกไม้มัน (33 ลูก)

ต้นนี้ออกผลมากกว่าต้นอื่นๆ นับได้ 33 ผล(ต้นที่ 7)


ออกลูกบนดินเลย

 ต้นที่ 8 มหาชนก (9 ผล)

เห็นกำลังเลื้อย พยายามจะเข้าไปไกล เขารู้ตัวเสียก่อนเลยถ่ายรูปไม่ทัน