Wednesday, October 9, 2013

ส.ศิวรักษ์ถวายฎีกาขอเลื่อนสมณศักดิ์พระพรหมคุณาภรณ์(ป.อ. ปยุตฺโต)




ส.ศิวรักษ์ถวายฎีกาขอเลื่อนสมณศักดิ์"ป.อ.ปยุตโต"

วันที่ 8 ต.ค. เวลา 21.00 น. นายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ ปัญญาชนสยาม โพสต์เฟซบุ๊กถวายฎีกาถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยระบุให้ ราชเลขาธิการหรือองคมนตรี กราบบังคมทูลพระกรุณา สถาปนาพระพระพรหมคุณาภรณ์ (ประยุทธ์ ปยุตโต) เจ้าอาวาสวัดญาณเวศกวัน จ.นครปฐม ให้ขึ้นเป็นสมเด็จพระราชาคณะ แทนตำแหน่งที่ว่างลง พร้อมระบุว่าขณะนี้ ไม่มีพระมหาเถระชั้นหิรัณยบุตร ที่เหมาะสมเท่าพระพรหมคุณาภรณ์แล้ว

“เนื่องในวโรกาส ฉลองพระชันษาครบศตวรรษของสมเด็จพระญาณสังวร องค์สกลมหาสังฆปริณายกนั้น ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาพระราชาคณะขึ้นใหม่ 2 รูป เพื่อทรงบูชาเจ้าพระคุณสมเด็จ ซึ่งเคยเป็นพระอภิบาลพระองค์ท่านมาแต่สมัยทรงผนวช และทรงเป็นกัลยาณมิตรของพระองค์ท่านตลอดมา โดยทรงเคารพสักการะเจ้าพระคุณสมเด็จเป็นอย่างยิ่ง

รูปหนึ่งที่วัดบวรนิเวศวิหาร ได้รับราชทินนามว่าพระศากยวงศ์วิสุทธิ์ โดยที่พระคุณเจ้ารูปนี้เป็นพระภิกษุชาวเนปาล ซึ่งสืบเชื้อสายศากยวงศ์มาแต่พระบรมศาสดา ซึ่งมีพระประสูติกาลที่ประเทศนั้น และท่านองค์นี้เป็นสัทธิวิหาริกของเจ้าพระคุณสมเด็จ โดยได้รับใช้ใกล้ชิดพระองค์ท่านมาตลอด และเมื่อโปรดให้ไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ในประเทศอังกฤษนั้นเล่า ก็ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้รับไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์

อีกรูปที่วัดเทวสังฆารามอันเป็นวัดมหานิกายต้นสังกัดเดิมของเจ้าพระคุณสมเด็จ ที่จังหวัดกาญจนบุรี โดยเจ้าอาวาสวัดนั้นได้รับราชทินนามว่า พระกิติสุวัฒนาภรณ์ เพื่อเฉลิมพระสมณฉายาของเจ้าพระคุณสมเด็จ

หากเจ้าพระคุณทรงทราบได้โดยญาณวิถีใด ก็ย่อมจะต้องทรงอนุโมทนา และถวายพระราชกุศลด้วยพระปิติสุข โดยที่กุศลกิจครั้งนี้จะเกิดขึ้นจากความดำริริเริ่มของกรรมการมหาเถรสมาคมก็หาไม่ บัดนี้ มส. ปราศจากทัศนวิสัยที่กว้างไกลในทางทำนุบำรุงพระศาสนา หรือเพื่อเอื้ออาทรต่อพระบรมวงศานุวงศ์และพสกนิกรเสียแล้ว อะไรๆที่ปรากฏออกมาจาก มส.ดูจะเป็นเรื่องที่แสดงความเห็นแก่ตัว มัวเมาในยศศักดิ์อัครฐาน ทั้งยังเกลือกกลั้วไปด้วยอลัชชีไว้อย่างน่าสังเวช แล้วจะให้ไปชำระอธิกรณ์ของพระเณรได้อย่างไร การตั้งและเลื่อนสมณศักดิ์ก็เป็นเรื่องของพวกตัว หาไม่ก็ต้องใช้การติดสินบนกันอย่างเลวร้ายไปกว่าข้าราชการในบางแวดวงเสียอีกด้วย

โดยที่บัดนี้ ตำแหน่งสมเด็จพระราชาคณะว่างลง จากการมรณภาพของสมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดสระเกศ กรรมการ มส. บางรูปได้วิ่งเต้นวางแผนกันชิงตำแหน่งดังกล่าวอย่างปราศจากหิริโอตตัปปะใดๆสิ้น มิไยต้องเอ่ยถึงว่าผิดสมณสารูปอย่างไร

ก็การตั้งและเลื่อนสมณศักดิ์นั้น วรมุ่งที่ผู้ซึ่งทรงศีลาจารวัตรและคุณวิเศษ ในทางสุตมยปัญญา ยิ่งกว่าการยกย่องเชิดชูผู้ที่มีแต่ความกึ่งดิบกึ่งดี ที่ตีโวหารอวดอำนาจวาสนาในทางไสยเวทวิทยาหรือสยบยอมอยู่กับทุนนิยมและบริโภคนิยม

ว่าไปทำไมมี ในบรรดาพระมหาเถระชั้นหิรัณยบัตร ในบัดนี้ ที่ทรงคุณวิเศษยิ่งกว่าใครๆ แม้จะอาพาธและห่างไกลแวดวงแห่งอำนาจ ก็มีอยู่รูปเดียวคือ พระพรหมคุณาภรณ์ ซึ่งเป็นสามเณรเปรียญเอกอุรูปแรก ที่พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์โปรดให้อุปสมบทในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และดำรงพรหมจรรย์อยู่ตราบจนปัจจุบัน โดยที่พระคุณท่านมั่นคงในพระธรรมวินัย ทั้งยังเปรื่องปราดสามารถในทางวิชาความรู้อย่างเป็นที่ประจักษ์แก่นานาประเทศ อย่างหาผู้เสมอมิได้ ทั้งองค์พระสังฆบิดรก็ทรงยกย่องเชิดชูพระคุณท่านมาแต่ก่อนได้รับสมณศักดิ์และก็ทรงประกาศคุณงามความสามารถของท่านรูปนี้ให้ปรากฏในโอกาสต่างๆตลอดมา ถ้าทรงแสดงออกได้ทางพระวจีกรรม ย่อมต้องทรงเสนอให้พระคุณเจ้ารูปนี้ได้เป็นสมเด็จพระราชาคณะอย่างแน่นอน แต่ มส. หาสนใจในแนวทางอันเป็นอุปายโกศลดังกล่าวไม่

ราชเลขาธิการหรือองคมนตรีที่มีความกล้าหาญทางจริยธรรม น่าจะกราบบังคมทูลพระกรุณา ให้โปรดสถาปนาพระคุณเจ้ารูปนี้เป็นสมเด็จพระราชาคณะในวโรกาส วันเฉลิมพระชนมพรรษาที่จะถึงนี้ โดยไม่ต้องรอคอยการปลงศพสมเด็จพระพุฒาจารย์ก็ยังได้ โดยจะโปรดให้ได้รับราชทินนามใหม่ก็ยังได้ด้วยซ้ำไป เช่นให้เป็นสมเด็จพระสุวัฒนานุคุณ ตามพระสมณสัญญาของเจ้าพระคุณสมเด็จ หรือสมเด็จพระญาณวโรดม แทนท่านที่เพิ่งมรณภาพไป หาไม่ก็เป็นเสมเด็จพระสิริมังคลาจารย์ เพื่อเชิดชูพระมหาเถระไทยที่ยอดเยี่ยมในทางพระบาลีมาแต่สมัยเชียงใหม่โน้น ยังราชทินนามพิมลธรรมเล่า ก็เก่าแก่มาแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ไม่น่าจะให้ปลาสนาการไป ขยับให้ราชทินนามนี้เป็นชั้นสมเด็จพระราชาคณะก็ยังได้

พระคุณเจ้ารูปนี้ไม่ไยดีกับลาภยศ แต่การสถาปนาพระผู้มีศีลาจรวัตร และไม่หวั่นไหวไปกับโลกธรรม ย่อมเป็นพระราชสิริและเป็นศรีกับพระศาสนา ซึ่งกำลังเสื่อมถอยและคลอนแคลน ทั้งยังเป็นกำลังใจให้พสกนิกรมีความหวังในทางคุณงามความดี ซึ่งย่อมจะพากันจงรักภักดีในใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทยิ่งๆขึ้นสืบต่อไป

ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด

ส.ศิวรักษ์

ป.ล. การถวายฎีกาฉบับนี้ ใช้สื่อสารอย่างนี้ ก็น่าจะได้ ใครมีปฏิกิริยาอย่างไร ขอให้ออกความเห็นออกมา เชื่อว่าถึงพระเนตรพระกรรณ เราต้องเข้าใจว่าในหลวงทรงรับฟังทัศนคติของพสกนิกร และทรงมีพระหทัยกว้างขวาง ทั้งยังทรงกล้าตัดสินพระทัย ในขณะที่คนที่อ้างตัวว่าเป็นชนชั้นบนมักไม่กล้าเสี่ยงในทางใดๆกันเอาเลย ดังการเสด็จฯไปประทับที่พระราชวังไกลกังวล ก็ทรงตัดสินพระหฤทัยเอง หากรอหมอหลวงแล้ว คงยังต้องประทับที่ศิริราชต่อไปอยู่นั่นเอง

ลำดับศักดิ์พระชั้นสมเด็จฯ
ปัจจุบัน มีพระชั้นสมเด็จทั้งสิ้น 7 รูปได้แก่ 1.สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช 2.สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ เจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร 3.สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ เจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร 4.สมเด็จพระวันรัต เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศราชวรมหาวิหาร 5.สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ เจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร 6.สมเด็จพระธีรญาณมุนี เจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร และ 7. สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการามวรวิหาร โดยขณะนี้ สมณศักดิ์พระชั้นสมเด็จว่างลง 1 ตำแหน่ง หลังสมเด็จพระพุฒาจารย์มรณภาพ และจะต้องมีการสถาปนาขึ้นแทน หลังพิธีพระราชทานเพลิงศพ

ทั้งนี้ ในวงการสงฆ์ วิเคราะห์กันว่า พระเถระผู้ใหญ่ที่โดดเด่นที่สามารถเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระชั้นสมเด็จได้ มี 5 รูปด้วยกัน คือ 1.พระพรหมวชิรญาณ เจ้าอาวาสวัดยานนาวา 2.พระพรหมเวที เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร 3.พระพรหมจริยาจารย์ เจ้าอาวาสวัดกระพังสุรินทร์ จ.ตรัง เพราะเป็นเจ้าคณะใหญ่หนใต้ 4.พระธรรมปัญญาบดี เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร กทม. และ 5.พระพรหมคุณาภรณ์

สำหรับ พระพรหมคุณาภรณ์ ปัจจุบันอายุ 75 ปี บรรพชาเป็นสามเณรตั้งแต่อายุ 12 ปี เมื่อ ปี 2494 รวมถึงสอบได้นักธรรมเอก และเปรียญธรรม 9 ประโยค ขณะยังเป็นสามเณร เป็นรูปที่ 2 ในรัชกาลปัจจุบัน และเป็นรูปที่ 4 ในสมัยรัตนโกสินทร์ โดยได้รับการอุปสมบทโดยเป็นนาคหลวงในพระบรมราชูปถัมภ์ เมื่อ 24 ก.ค. 2505 ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยมีสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (ปลด กิตฺติโสภโณ) เป็นพระอุปัชฌาย์

นอกจากนี้ พระพรหมคุณาภรณ์ ยังได้รับการยอมรับในฐานะพระนักวิชาการนักคิดนักเขียนผลงานทางพระพุทธศาสนารุ่นใหม่ มีผลงานทางวิชาการพระพุทธศาสนาเป็นจำนวนมาก และยังเป็นคนไทยคนแรกที่ได้รับรางวัลการศึกษาเพื่อสันติภาพ จากองค์การยูเนสโก (UNESCO Prize for Peace Education) นอกจากนี้ยังได้รับปริญญาดุษฏีบัณฑิตกิตติมศักดิ์จากมากกว่า 15 สถาบัน

No comments:

Post a Comment