คุณวโรชา จันทโชติ เจ้าของสวนวโรชา ต.ไผ่จำศิล อ.วิเชษไชยชาญ จ.อ่างทอง แนะนำวิธีเตรียมดินเพื่อปลูกมะนาวแป้นให้ได้ผลดี
ปูนมาล/แคลเซียมคาร์บอเนต, ขุยมะพร้าว, แกลบดิบ(ค้างปี), ขี้เถ้าแกลบ, ผัดตบชวา/เศษใบไม้(ใบก้ามปูจะดีมาก) เสมอภาค คลุกเคล้าให้เข้ากัน ราดด้วยน้ำผสมEM 1 ช้อนชาต่อน้ำ 20 ลิตร และ ยาฆ่าเชื้อรา คลุกเคล้าให้เข้ากัน และใช้แสลนคลุมทิ้งไว้ 15 วัน จึงนำไปใช้ได้
นำผักตบชวาใส่ลงในบ่อซีเมนต์ให้ได้ 3/4 บ่อ ที่เหลือก็ใส่ดินที่เตรียมไว้ และควรทำไม้ค้ำยันหรือยึดต้นมะนาวไว้ด้วย เพื่อไม่ให้ต้นล้ม นานๆำไปดินจะยุบลงก็มั่นเติมดินด้วย ใช้เวลาประมาณ 6 เดือนออกผล
Tuesday, August 27, 2013
Sunday, August 25, 2013
เครื่องหลวมแรงตก
การสึกหรอในตัวเครื่องยนต์ที่ทำให้แรงตกน่าจะแบ่งออกได้เป็น 2 อย่าง อย่างแรก กำลังอัดรั่วขึ้นบน และอย่างที่สอง รั่วลงล่าง
เครื่องหลวมแรงตก1
วาล์วยันอธิบายได้ดังนี้ ภายในวาล์วไฮดอลิก (ตัวขนาดเท่าปลายนิ้วก้อย) มีส่วนประกอบเป็นกลไกที่สำคัญคือ สปริง (ตัวเล็กๆ) และวาล์ว (ตัวกระจิดริด) เมื่อวาล์วต้องการเปิด (วาล์วเลื่อนลงล่าง) ไฮดรอลิกที่มีแรงดันน้ำมันเครื่องอยู่ในนั้นและลิ้นน้ำมัน (อันกระจิดริด) จะปิดกักน้ำมันเอาไว้เพื่อให้กระเดื่องวาล์วมีแรงกดไปถึงก้านวาล์ว วาล์วหรือลิ้นจึงเปิดได้กว้างที่สุดตามที่ถูกออกแบบไว้ เมื่อวาล์วต้องการปิด (ในจังหวะดูดหรือคลายไอเสีย) กระเดื่องวาล์ว (โดยการวบคุมของเพลาราวลิ้น) จะบังคับให้คลายตัวจากการกดไฮดรอลิกวาล์ว เมื่อไม่มีแรงกดจากภายนอก สปริง (ตัวน้อยๆ) ก็จะทำหน้าที่เปิดวาล์ว (อันกระจิดริด) ให้น้ำมันที่อยู่ในวาล์วไฮดรอลิกไหลออก ระยะห่างจากก้านวาล์วกับตัวกดวาล์วก็จะมีระยะห่างตามกำหนด (ประมาณว่า 0.025มิลลิเมตร) วาล์ว ก็จะไม่ยัน เมื่อได้ที่กระเดื่องกดว่า ยกแล้วแต่น้ำมันในไฮดอลิกวาล์วไม่ไหลออก วาล์วไฮดรอลิกตัวนั้นก็จะไปยันอยู่กับกระเดื่องกดวาล์วระยะห่าง (ประมาณ 0.025 มิลลิเมตร) ระหว่างก้านวาล์วกับกระเดื่องกดก็จะไม่มี ลิ้นไม่ว่าจะเป็นลิ้นไอดีหรือไอเสียก็จะปิดไม่สนิท อาการเช่นนี้แหละที่เรียกกันว่าวาล์วยัน
เครื่องหลวมแรงตก2
วาล์วดังนั้นเกิดจากวาล์วห่าง ถ้าถามต่อว่าตรงไหนของวาล์วบ้างล่ะที่ห่างและทำไมถึงห่างก็ตอบได้ไม่ยากว่า (ในรุ่นที่ใช้กลไกปรับตั้ง) เพราะก้านวาล์วสึกกระเดื่องวาล์วสึก คงไม่ถามต่อนะว่าทำไมถึงสึกแต่ก็จะบอกให้ได้ว่าเพราะก้านวาล์วและกระเดื่อง กดวาล์วเป็นเหล็กแท้ๆ กระแทกกระทั้นกันตลอดเวลาเหล็กก็ต้องสึก อาจจะสึกที่ก้านวาล์วก่อน หรือพร้อมๆ กับตัวกระเดื่องกดวาล์ว เมื่อเหล็กสึกช่องห่างระหว่างก้านวาล์วกับตัวกดวาล์วที่เว้นระยะเอาไว้จำนวน หนึ่ง เช่น 0.025มิลลิเมตร ก็ถ่างกว้างเป็น 0.35 มม. หรือมากกว่า
เครื่องหลวมแรงตก3
วาล์วอัตโนมัติ วาล์วไฮดรอลิกก็มีทั้งห่างได้ (เสียงดัง) และก็ยันได้ (เครื่องเดินไม่เรียบ)
เครื่องหลวมแรงตก4
เรื่องวาล์วเรื่องฝาสูบเป็นเรื่องสำคัญสำหรับผู้มีหน้าที่ให้บริการ เพราะอายุเครื่อง(กำลัง)จะเรี่ยวแรงแข็งขันมากน้อยแค่ไหนก็อยู่ที่วาล์วกับ ฝาสูบ เครื่องยนต์ที่เขาใช้กันเป็นล้านกิโล ไม่ต้องยกเครื่องกันก่อน ก็อยู่ที่ตรวจเช็กวาล์วและขันน็อตฝาสูบเป็นประจำ
เครื่องหลวมแรงตก5
ถ้าใครก็ตามที่ใช้รถมาไม่ว่าจะสักกี่กิโลเมตร(ถ้ายังไม่ถึงล้าน กิโลเมตร)แล้วรู้สึกว่าแรงตก กินน้ำมันเครื่องกินน้ำมันเชื้อเพลิง มีควันขาว(ฟ้า)ออกตูด ก็อย่าเพิ่งคิดว่าเครื่องหลวมจนถึงกับต้องยกเครื่อง เพราะปัจจัยที่จะทำให้เครื่องแรงหายไปในขณะอายุยังเยาว์(ไม่ถึงเจ็ดแปดแสน กิโลเมตร) นั้นมีมากมายก่ายกอง และอยากให้เชื่อว่า เทคโนโลยีในการผลิต ทั้งวัสดุและเทคโนโลยีด้านตัวช่วย เครื่องยนต์ในปัจจุบันใช้กันอย่างถูกต้องดูแลบำรุงรักษากันพอสมควรเชื่อหัว ไอ้เรืองได้เลยว่าใช้งานได้สบายๆ ล้านกิโลเมตร
เครื่องหลวมแรงตก6
ชีรนฺติ เว ราชรถา สุจิตฺตา
อโถ สรีรมฺปิ ชรํ อุเปติ
สตญฺจ ธมฺโม น ชรํ อุเปติ
สนฺโต หเว สพฺภิ ปเวทยนฺติ
ราชรถ อันวิจิตรงดงาม ยังเก่าได้
แม้ร่างกายของเรา ก็ไม่พ้นชราภาพ
แต่ธรรมของสัตบุรุษหาแก่ไม่
สัตบุรุษทั้งหลาย ย่อมกล่าวสอนกันเช่นนี้แล
วันสบาย
วันสบายๆของหลายๆคน วันนี้เริ่มที่กิ่งตอนโมก
ตอนไว้นานแล้วล่ะ ตัดมาลงถุงเพาะได้ 5 กิ่ง เหลือไว้ 1 กิ่ง เพราะดูรากจะน้อยไปสักหน่อย
และก็นี่เม็ดมะม่วงโยนไว้ในกระถาง เกิดงอกเลยหาที่อยู่ใหม่ให้
นี่ก็มะนาวโยนเม็ดไว้เหมือนกัน
นี่ก็โยนเหมือนกันน้อยหน่า
นี่แหละกระถางที่รองรับการโยน
สาธุ สมฺพหุลา ญาตึ อปิ รุกฺขา อรญฺญชา
วาโต วหติ เอกฏฺฐํ พฺรหนฺตมฺปิ วนปฺปตึ
วาโต วหติ เอกฏฺฐํ พฺรหนฺตมฺปิ วนปฺปตึ
มีญาติพวกพ้องมาก ย่อมเป็นการดี
เช่นเดียวกับต้นไม้ในป่าที่มีจำนวนมาก
ต้นไม้ที่ขึ้นอยู่โดดเดี่ยวถึงจะงอกงามใหญ่โตสักเท่าใด
ลมก็พัดให้โค่นลงได้
เช่นเดียวกับต้นไม้ในป่าที่มีจำนวนมาก
ต้นไม้ที่ขึ้นอยู่โดดเดี่ยวถึงจะงอกงามใหญ่โตสักเท่าใด
ลมก็พัดให้โค่นลงได้
Wednesday, August 21, 2013
เสียงข้างมาก...การเมือง...เศรษฐกิจ
อ.วีระ ธีรภัทร
FM 96.5 MHz 14.12 น.
๒๑ สิงหาคม ๒๕๕๖
...บางครั้งเราก็จะเห็นว่ามาจากประชาชน การเป็นส.ส.จากเขตเลือกตั้งจังหวัดใดจังหวัดหนึ่ง เวลาท่านเข้ามาในสภาฯก็จะบอกท่านเป็นตัวแทนประชาชนทั้งประเทศ ซึ่งจะว่ากันตามข้อเท็จจริงแล้วก็ไม่ใช่ ท่านก็เป็นตัวแทนจากอำเภอนั้นอำเภอนี้ 3-4 อำเภอมาร่วมกันเป็นเขตเลือกตั้ง ส่วนอีกคนก็เลือกอีกพวกหนึ่ง แต่กฎหมายเขียนรวมๆว่าเป็นตัวแทนจากปวงชนชาวไทย ท่านก็อ้างว่าท่านเป็นตัวแทนจากประชาชนทั้งหมด ซึ่งในทางข้อเท็จจริงแล้วมันไม่ใช่ ทั้งหลายทั้งปวงนี้เป็นสิ่งที่มนุษย์สมมุติประดิษฐ์บัญญัติมาทั้งนั้นแหละ แต่ว่าบางทีก็ลืมกันไปว่ามันมีข้อจำกัดคำอธิบายด้วย แต่เนื้อหาสาระสุดท้ายก็คือว่าหลักคิดมันง่ายๆเรื่องทางการเมือง ๑. เราเลือกตัวแทนไปทำแทนเรา ๒. เราเข้าไปทำเอง ๓. ระบบเปิดช่องให้เราเข้าไปทำเอง หรือบ้างระบบยังไม่ถึงกับเป็นตัวแทนแต่ก็ให้มีสิทธิ์เข้าไปมีส่วนร่วม ปัจจุบันนี้การเมืองแบบมีส่วนร่วมในนิติบัญญัติ ในตุลาการในศาลนี่ก็เป็นการแบ่งแบบสมัยใหม่ เพิ่งมาประมาณ ๒๐๐ ปีเท่านั้น เรื่องอำนาจอธิปไตยแบ่งเป็นสามเนี่ย คือผมเรียนมาผมไม่ค่อยตื่นเต้นหรอกที่ถกๆเถียงๆกันเนี่ยนะ เหนือสิ่งอื่นใดในเรื่องที่เกี่ยวกับอำนาจอธิปไตย หลายท่านยังไม่รู้นะครับอำนาจอธิปไตยนี่มันอะไร ทั้งหลายทั้งปวงในทางการเมืองเนี่ย ที่เข้าสู่อำนาจ ใช่อำนาจ รักษาอำนาจ บริหารจัดการอำนาจที่ได้มาตามข้อตกลงที่ว่ากัน เป้าหมายคือทำให้สังคมโดยร่วมมันพัฒนาไปในทางที่ดี พูดง่ายๆว่าทำให้สังคมนี้มันดีขึ้นในทางเศรษฐกิจ ทำมาหากิน ดีขึ้นทั้งในความเป็นอยู่และทรัพย์สิน ดีขึ้นทั้งในการฝึกอบรมสมาชิกรุ่นใหม่เพื่อส่งมอบให้ดูแลต่อไปในอนาคต ภาระกิจของการมีอำนาจในทางการเมืองซึ่งจะมาจากการเลือกตั้งเป็นตัวแทนจากประชาชนทั้งทางตรงทางอ้อม จัดสรรค์ คัดสรรค์ แต่งตั้ง เลือกตั้งอะไรเนี่ย มันต้องมารับใช่เป้าหมายนี้ บางที่เราก็สู้กันจนเลยเทิด เพราะว่าหลังๆนี่มันมีความคิดเรื่องลัทธิเสียงข้างมาก คือเสียงข้างมากเป็นตัวตัดสิน"ถูก""ผิด" อย่างที่ผมเคยบอกน่ะ ตัดสินได้แต่ว่าต้องตัดสินในเรื่องที่ถูกผิดเหมาะควรนะ ไม่ใช่เสียงข้างมากไปลงมติอะไรเลอะเทอะซึ่งมันก็มีจริง และบางอย่างมันไปลงมติเปลี่ยนแปลงสิ่งที่มันเป็นธรรมชาติไม่ได้ เสียงข้างมากในหมู่เพื่อน ๑๐ คนมาลงมติว่าผมเป็นหมาเนี่ยมันไม่ได้ เพราะว่าข้อเท็จจริงคือผมไม่ใช่หมา เพราะฉะนั้นอะไรที่สวนก็ความเป็นจริงนี่มันไม่ใช่ บ้างที่เราก็พูดกันไปอ้างกันไปจนบ้างที่คนที่ไม่สนใจไตร่สวนสืบสวนหรือว่าศึกษาหาความรู้มาพอสมควรก็งง บ้างที่ก็จนแต้มง่ายๆ ยิ่งเรามีปัญหาประโยชน์เข้ามาทับซ้อนด้วย เพราะในการได้ชัยชนะทางการเมืองมันเหมือนเข้าไปจัดการสมบัติส่วนร่วม ซึ่งตัวเองก็เป็นเจ้าของ ในเวลาเดียวกันคนที่เขาไม่ได้เลือกคุณเขาก็เป็นเจ้าของ มันไม่ใช่ว่าให้คุณไปทำอะไรโดยผ่านกระบวนการตรงนั้นแล้วไปทำอะไรโดยตามอำเภอใจ บ้างครั้งการทำอะไรบางอย่างในปัจจุบันมันส่งผลในอนาคต เวลาเกิดความย่ำแย่ เกิดวิกฤตขึ้นมาเนี่ย คนทั้งสังคมมันต้องรับผลกระทบนั้นด้วย
แม้เขาไม่ได้เลือกคุณให้ไปทำหน้าที่ดูแลบริหารจัดการ ไอ้เนี่ยทำให้ผมนึกถึงรัฐบาลที่เป็นข้อต่อในช่วงหลังยุบสภาปี๓๕ รัฐบาลคุณชวน รัฐบาลคุณบรรหาร รัฐบาลคุณชวลิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐบาลคุณบรรหารกับคุณชวลิต ซึ่งมาก่อนการเกิดวิกฤติปี ๒๕๔๐ ถ้านึกย้อนกลับไปก็ต้องบอกว่า ถ้าได้รัฐบาลที่ดีกว่านั้น รู้เท่าทันสถานการณ์มากกว่านั้น เราก็จะไม่ถึง ๒๕๔๐ อย่างที่เราผ่านมาหรอก ถึงแม้นี่จะเป็นการพูดย้อนดูก็จริง แต่ผมบอกไม่ใช่เรื่องเหตุผลแค่ย้อนดู เหตุผลก็คือว่าเวลาคณะใดคณะหนึ่งมีอำนาจเข้ามาบริหารจัดการไม่ว่าจะโดยแต่งตั้งเลือกตั้ง ไม่ว่าจะโดยรัฐประหารโดยอะไรก็ตามที เขามีอำนาจในฐานะที่จะจัดการเรื่องทั้งหมดในสังคมตามกฎหมายตามรัฐธรรมนูญตามบทบัญญัติต่างๆจริง แต่ว่าเขาไม่ใช่เจ้าของทั้งหมด แม้แต่ให้ปัจจุบันนี้ก็เหมือนกัน ถ้ารัฐบาลคุณยิ่งลักษณ์บริหารจัดการแล้วเกิดปัญหา คนที่เลือกคุณยิ่งลักษณ์เลือกรัฐบาลเพื่อไทยก็ผลกระทบเช่นเดียวกับคนที่ไม่ได้เลือก ตรงนี้สำคัญ บางทีเราก็มองข้ามไป ไปเอาชนะกันเรื่องเลือกตั้งเสียงข้างมากเสียงข้างน้อยจนลืมไปว่า เฮ้ยมันต้องเป็นเรื่องทั้งหมดทั้งก้อน ส่วนคนที่คัดค้านรัฐบาลบางทีก็ถูกกล่าวหาเลยเถิดไป ประดิษฐ์คำขึ้นมา เช่น ล้มล้างรัฐบาล ผมจะบอกให้คำนี้ไม่มีหรอกครับ คำว่าล้มล้างรัฐบาลน่ะผมนึกไม่ออก ยกเว้นแต่มีอาวุธเท่านั้นเอง แต่ถ้ามือเปล่าคำว่าล้มล้างรัฐบาลก็ทำได้แค่ปรวน อย่างดีก็ชุมนุม หรือไม่งั้นก็ยกระดับขึ้นไปเป็นการประทุษร้ายต่อทรัพย์สินของรัฐ เหตุการจราจล แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่า จะไปอธิบายว่าไอ้เนี่ยมันเป็นกบฎ มันเป็นคำที่ใช้จริงแต่ว่ามันไม่ใช่ และผมอยากให้คุณดูเหตุการณ์ย้อนหลังสั้นๆไม่ต้องมาก เอาแค่ตั้งแต่ปี ๔๘ จนถึงปัจจุบัน ดูอย่างกรณีคนเสื้อเหลือง สิ่งที่ทำได้ก็คือชุมนุมไปชุมนุมมาแล้วก็เกิดรัฐประหารปี๔๙ คือตอนที่คัดค้านรัฐบาลสมัคร คุณสมัครก็ไม่ได้ไปเพราะการชุมนุมนะ ไปเพราะไปขัดกับธรรมนูญ คือไปรับจ้างบริษัทเอกชนทำรายการโทรทัศน์ ซึ่งนี่ก็ถูกทำให้เข้าใจเป็นเชิงเน็กทีฟว่า ทำกับข้าวออกทีวีแล้วเลยไม่ได้เป็นนายกอะไรอย่างนี้ จริงถ้าไปอ่านคำ ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยอย่างไรก็ตามที แต่ว่ามันไม่ใช่ง่ายๆอย่างนั้น หรือการยุบพรรค แม้แต่เสื้อเหลืองออกแรงไปชุมนุมปิดล้อมสนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินดอนเมือง ยึดทำเนียบเข้าไปควบคุมภายในรัฐบาลเข้าไปบริหารไม่ได้ แต่เวลารัฐบาลนั้นไปเนี่ย ไม่ใช่เพราะจากการชุมนุมนะ ๒ ธันวาคม ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคพลังประชาชน จากเรื่องกรรมการบริหารพรรคคนหนึ่ง ถูกศาลฎีกาคดีเลือกตั้งไตร่สวนตัดสินแล้วว่าไปทำผิดกฎหมายเลือกตั้งร้ายแรงเลยล่ะให้ใบแดงเลย ก็ไม่ได้เกี่ยวกับการชุมนุมโดยตรง อ่าแน่ก็แน่นอนล่ะจะมีบางคนอ้างว่าก็ไอ้การชุมนุมก็เลยทำให้ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินอย่างนั้นอ่าอันนี้ผมยกให้ หรือแม้การชุมนุมของเสื้อแดงปี๒๕๕๒ ที่เอารถแก๊สมาตรงแฟรตดินแดง มีคนตายที่สนามม้านางเลิง ๒ คน หรือเผารถเมล์ ก็ไม่ก่อให้เกิดผล นี่ขนาดใช้สิทธิ์ต่อต้านรัฐบาลแบบเต็มทีแล้วนะ ประกาศภาวะฉุกเฉิน มีศอฉ. ศอรศ.อะไรแล้วนะ ถามว่าดลบันดาลให้เกิดอะไรได้บ้าง ก็ไม่ กลับในปี๕๓ ยิ่งหนักเข้าไปอีกเนี่ย ไม่รู้เกิดอะไรขั้นบ้างน่ะ มีเหตุการณ์จราจล บริษัท ออฟฟิตประชาชนถูกเผา ห้างสรรพสินค้าถูกเผา สถานที่ราชการถูกเผา มีปาระเบิด มีอะไร แล้วไง ก็ไม่ได้ล้มรัฐบาล เพียงแต่ย่นเวลาทำให้การเลือกตั้งมันเร็วขึ้น สุดท้ายก็เป็นเรื่องการเลือกตั้ง เห็นไหมนี่ประชาชนทำเต็มที่ทั้ง ๒ ฝ่ายก็ไม่เห็นจะไปล้มอะไรได้ การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองจริงๆเนี่ยมันพ้นมือประชาชน เพราะฉะนั้นผมถึงบอกว่า ถ้าเราเอากันแบบประเภทรวบรัดตัดตอนเอาแบบสั้นย่อ มันก็คลุมๆเครือๆ ที่ผมลำดับมาทั้งหมดนี่ก็เพื่อให้ท่านเอาไปคิดต่อ ผมไม่อยากแนะนำอะไรมากแล้วผมเบื่อคือทุกคนเก่งๆกันทั้งนั้น ถ้าเข้าใจหัวใจของเรื่องมันเกิดจากอะไรแล้ว ถึงจะหงุดหงิดรำคราญใจก็บริหารจัดการได้ ก็วนๆเวียนๆอยู่ ถ้าท่านขี้เกลียดดูขี้เกลียดฟังก็ปิดโทรทัศน์ปิดวิทยุ แต่ว่าอย่าไปทิ้ง อย่าไปละเลย เราก็ต้องติดตามๆสมควร นี่ถ้าหากว่าสถานการณ์เศรษฐกิจมันไม่ย่ำแย่อย่างนี้นะมันก็พอทำเนา ผมเรียนผู้ฟังตามตรงว่าผมโครตเป็นห่วงเลย เรื่องเศรษฐกิจ เรื่องทำมาหากินเนี่ย มันไม่ค่อยดีจริงๆนะ บ้างคนมีแต่กระเป๋าจริงๆนะ รายได้ชักหน้าไม่ถึงหลังจริงๆนะ ยิ่งคนเพิ่งจะทำงาน ยิ่งคนเพิ่งจะทำมาหากิน เพิ่งจะเก็บสะสมสมบัตินี่ สำหรับผมเองนี่ผมระมัดระวัง ก็เคยบอกท่านหลายทีแล้วว่า เคล็ดรับให้การบริหารจัดการเรื่องสตุงสตางค์ส่วนตัวนี่ จะไม่ให้มันเกิดวิกฤตทางการเงินส่วนตัวมีเรื่องเดี่ยวทำนั้นหัวใจมันอยู่ตรงนี้ว่า "ไม่มีหนี่" ถ้ามีก็มีให้น้อยที่สุดเท่าที่จะมีได้ และไอ้ที่มีให้น้อยที่สุดเท่าที่จะมีได้นี่ก็ขอให้เป็นหนี่ที่มันเหมาะควร เป็นหนี่ที่มีเหตุมีผล ผมไม่ได้คัดค้านใครที่อยากไปเป็นหนี่เป็นสินนะ แต่ว่าถ้าลำพังแค่ประเดี๋ยวประด๋าวซื้อของมากินมาใช้อย่างนี้ท่านก็ต้องไตร่ตรองให้ดีว่าอันไหนเหมาะควร แต่อันนี้มันเป็นพระอุดเป็นเครื่องมือเดียวเป็นหัวใจสำคัญที่จะรับมือกับสถานการณ์เศรษฐกิจให้ช่วงอย่างนี้ ถ้าเป็นช่วงเศรษฐกิจแบบว่าเดินไปได้หาเงินได้ง่ายจับจ่ายใช้สอยได้คล่องมือเงินเข้าทางซ้ายเงินออกทางขวาตลอดอย่างนี้ไม่เป็นอะไร แต่ถ้าซ้ายไม่เข้าขวาออกอย่างเดียวอย่างที่กำลังเป็นอยู่ตอนเนี่ย ถ้าท่านไม่ได้มีภูมิต้านทางไม่ได้สร้างภูมิคุ้มกันเอาไว้ ผมรับประกันได้เลยว่าเสร็จ เสร็จแน่นอน จะเป็นรัฐบาลไหนก็เสร็ฐทั้งนั้นแหละ ตัวท่านน่ะเสร็จก่อน ไอ้คนที่เป็นรัฐบาลน่ะมีตังทั้งนั้นแหละคุณ ไม่ว่าจะเป็น ส.ส., ส.ว., ข้าราชการการเมือง รัฐมนตรี นักธุรกิจ คนที่ทำมาหากินที่เขามีมากกว่าท่านและเขามีช่องมีทางหาเงินได้มากกว่าท่านเขารอดทั้งนั้นแหละ ไอ้ท่านที่เชียร์การเมืองเหยงๆเนี่ยจะไม่รอดเอา
FM 96.5 MHz 14.12 น.
๒๑ สิงหาคม ๒๕๕๖
...บางครั้งเราก็จะเห็นว่ามาจากประชาชน การเป็นส.ส.จากเขตเลือกตั้งจังหวัดใดจังหวัดหนึ่ง เวลาท่านเข้ามาในสภาฯก็จะบอกท่านเป็นตัวแทนประชาชนทั้งประเทศ ซึ่งจะว่ากันตามข้อเท็จจริงแล้วก็ไม่ใช่ ท่านก็เป็นตัวแทนจากอำเภอนั้นอำเภอนี้ 3-4 อำเภอมาร่วมกันเป็นเขตเลือกตั้ง ส่วนอีกคนก็เลือกอีกพวกหนึ่ง แต่กฎหมายเขียนรวมๆว่าเป็นตัวแทนจากปวงชนชาวไทย ท่านก็อ้างว่าท่านเป็นตัวแทนจากประชาชนทั้งหมด ซึ่งในทางข้อเท็จจริงแล้วมันไม่ใช่ ทั้งหลายทั้งปวงนี้เป็นสิ่งที่มนุษย์สมมุติประดิษฐ์บัญญัติมาทั้งนั้นแหละ แต่ว่าบางทีก็ลืมกันไปว่ามันมีข้อจำกัดคำอธิบายด้วย แต่เนื้อหาสาระสุดท้ายก็คือว่าหลักคิดมันง่ายๆเรื่องทางการเมือง ๑. เราเลือกตัวแทนไปทำแทนเรา ๒. เราเข้าไปทำเอง ๓. ระบบเปิดช่องให้เราเข้าไปทำเอง หรือบ้างระบบยังไม่ถึงกับเป็นตัวแทนแต่ก็ให้มีสิทธิ์เข้าไปมีส่วนร่วม ปัจจุบันนี้การเมืองแบบมีส่วนร่วมในนิติบัญญัติ ในตุลาการในศาลนี่ก็เป็นการแบ่งแบบสมัยใหม่ เพิ่งมาประมาณ ๒๐๐ ปีเท่านั้น เรื่องอำนาจอธิปไตยแบ่งเป็นสามเนี่ย คือผมเรียนมาผมไม่ค่อยตื่นเต้นหรอกที่ถกๆเถียงๆกันเนี่ยนะ เหนือสิ่งอื่นใดในเรื่องที่เกี่ยวกับอำนาจอธิปไตย หลายท่านยังไม่รู้นะครับอำนาจอธิปไตยนี่มันอะไร ทั้งหลายทั้งปวงในทางการเมืองเนี่ย ที่เข้าสู่อำนาจ ใช่อำนาจ รักษาอำนาจ บริหารจัดการอำนาจที่ได้มาตามข้อตกลงที่ว่ากัน เป้าหมายคือทำให้สังคมโดยร่วมมันพัฒนาไปในทางที่ดี พูดง่ายๆว่าทำให้สังคมนี้มันดีขึ้นในทางเศรษฐกิจ ทำมาหากิน ดีขึ้นทั้งในความเป็นอยู่และทรัพย์สิน ดีขึ้นทั้งในการฝึกอบรมสมาชิกรุ่นใหม่เพื่อส่งมอบให้ดูแลต่อไปในอนาคต ภาระกิจของการมีอำนาจในทางการเมืองซึ่งจะมาจากการเลือกตั้งเป็นตัวแทนจากประชาชนทั้งทางตรงทางอ้อม จัดสรรค์ คัดสรรค์ แต่งตั้ง เลือกตั้งอะไรเนี่ย มันต้องมารับใช่เป้าหมายนี้ บางที่เราก็สู้กันจนเลยเทิด เพราะว่าหลังๆนี่มันมีความคิดเรื่องลัทธิเสียงข้างมาก คือเสียงข้างมากเป็นตัวตัดสิน"ถูก""ผิด" อย่างที่ผมเคยบอกน่ะ ตัดสินได้แต่ว่าต้องตัดสินในเรื่องที่ถูกผิดเหมาะควรนะ ไม่ใช่เสียงข้างมากไปลงมติอะไรเลอะเทอะซึ่งมันก็มีจริง และบางอย่างมันไปลงมติเปลี่ยนแปลงสิ่งที่มันเป็นธรรมชาติไม่ได้ เสียงข้างมากในหมู่เพื่อน ๑๐ คนมาลงมติว่าผมเป็นหมาเนี่ยมันไม่ได้ เพราะว่าข้อเท็จจริงคือผมไม่ใช่หมา เพราะฉะนั้นอะไรที่สวนก็ความเป็นจริงนี่มันไม่ใช่ บ้างที่เราก็พูดกันไปอ้างกันไปจนบ้างที่คนที่ไม่สนใจไตร่สวนสืบสวนหรือว่าศึกษาหาความรู้มาพอสมควรก็งง บ้างที่ก็จนแต้มง่ายๆ ยิ่งเรามีปัญหาประโยชน์เข้ามาทับซ้อนด้วย เพราะในการได้ชัยชนะทางการเมืองมันเหมือนเข้าไปจัดการสมบัติส่วนร่วม ซึ่งตัวเองก็เป็นเจ้าของ ในเวลาเดียวกันคนที่เขาไม่ได้เลือกคุณเขาก็เป็นเจ้าของ มันไม่ใช่ว่าให้คุณไปทำอะไรโดยผ่านกระบวนการตรงนั้นแล้วไปทำอะไรโดยตามอำเภอใจ บ้างครั้งการทำอะไรบางอย่างในปัจจุบันมันส่งผลในอนาคต เวลาเกิดความย่ำแย่ เกิดวิกฤตขึ้นมาเนี่ย คนทั้งสังคมมันต้องรับผลกระทบนั้นด้วย
แม้เขาไม่ได้เลือกคุณให้ไปทำหน้าที่ดูแลบริหารจัดการ ไอ้เนี่ยทำให้ผมนึกถึงรัฐบาลที่เป็นข้อต่อในช่วงหลังยุบสภาปี๓๕ รัฐบาลคุณชวน รัฐบาลคุณบรรหาร รัฐบาลคุณชวลิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐบาลคุณบรรหารกับคุณชวลิต ซึ่งมาก่อนการเกิดวิกฤติปี ๒๕๔๐ ถ้านึกย้อนกลับไปก็ต้องบอกว่า ถ้าได้รัฐบาลที่ดีกว่านั้น รู้เท่าทันสถานการณ์มากกว่านั้น เราก็จะไม่ถึง ๒๕๔๐ อย่างที่เราผ่านมาหรอก ถึงแม้นี่จะเป็นการพูดย้อนดูก็จริง แต่ผมบอกไม่ใช่เรื่องเหตุผลแค่ย้อนดู เหตุผลก็คือว่าเวลาคณะใดคณะหนึ่งมีอำนาจเข้ามาบริหารจัดการไม่ว่าจะโดยแต่งตั้งเลือกตั้ง ไม่ว่าจะโดยรัฐประหารโดยอะไรก็ตามที เขามีอำนาจในฐานะที่จะจัดการเรื่องทั้งหมดในสังคมตามกฎหมายตามรัฐธรรมนูญตามบทบัญญัติต่างๆจริง แต่ว่าเขาไม่ใช่เจ้าของทั้งหมด แม้แต่ให้ปัจจุบันนี้ก็เหมือนกัน ถ้ารัฐบาลคุณยิ่งลักษณ์บริหารจัดการแล้วเกิดปัญหา คนที่เลือกคุณยิ่งลักษณ์เลือกรัฐบาลเพื่อไทยก็ผลกระทบเช่นเดียวกับคนที่ไม่ได้เลือก ตรงนี้สำคัญ บางทีเราก็มองข้ามไป ไปเอาชนะกันเรื่องเลือกตั้งเสียงข้างมากเสียงข้างน้อยจนลืมไปว่า เฮ้ยมันต้องเป็นเรื่องทั้งหมดทั้งก้อน ส่วนคนที่คัดค้านรัฐบาลบางทีก็ถูกกล่าวหาเลยเถิดไป ประดิษฐ์คำขึ้นมา เช่น ล้มล้างรัฐบาล ผมจะบอกให้คำนี้ไม่มีหรอกครับ คำว่าล้มล้างรัฐบาลน่ะผมนึกไม่ออก ยกเว้นแต่มีอาวุธเท่านั้นเอง แต่ถ้ามือเปล่าคำว่าล้มล้างรัฐบาลก็ทำได้แค่ปรวน อย่างดีก็ชุมนุม หรือไม่งั้นก็ยกระดับขึ้นไปเป็นการประทุษร้ายต่อทรัพย์สินของรัฐ เหตุการจราจล แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่า จะไปอธิบายว่าไอ้เนี่ยมันเป็นกบฎ มันเป็นคำที่ใช้จริงแต่ว่ามันไม่ใช่ และผมอยากให้คุณดูเหตุการณ์ย้อนหลังสั้นๆไม่ต้องมาก เอาแค่ตั้งแต่ปี ๔๘ จนถึงปัจจุบัน ดูอย่างกรณีคนเสื้อเหลือง สิ่งที่ทำได้ก็คือชุมนุมไปชุมนุมมาแล้วก็เกิดรัฐประหารปี๔๙ คือตอนที่คัดค้านรัฐบาลสมัคร คุณสมัครก็ไม่ได้ไปเพราะการชุมนุมนะ ไปเพราะไปขัดกับธรรมนูญ คือไปรับจ้างบริษัทเอกชนทำรายการโทรทัศน์ ซึ่งนี่ก็ถูกทำให้เข้าใจเป็นเชิงเน็กทีฟว่า ทำกับข้าวออกทีวีแล้วเลยไม่ได้เป็นนายกอะไรอย่างนี้ จริงถ้าไปอ่านคำ ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยอย่างไรก็ตามที แต่ว่ามันไม่ใช่ง่ายๆอย่างนั้น หรือการยุบพรรค แม้แต่เสื้อเหลืองออกแรงไปชุมนุมปิดล้อมสนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินดอนเมือง ยึดทำเนียบเข้าไปควบคุมภายในรัฐบาลเข้าไปบริหารไม่ได้ แต่เวลารัฐบาลนั้นไปเนี่ย ไม่ใช่เพราะจากการชุมนุมนะ ๒ ธันวาคม ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคพลังประชาชน จากเรื่องกรรมการบริหารพรรคคนหนึ่ง ถูกศาลฎีกาคดีเลือกตั้งไตร่สวนตัดสินแล้วว่าไปทำผิดกฎหมายเลือกตั้งร้ายแรงเลยล่ะให้ใบแดงเลย ก็ไม่ได้เกี่ยวกับการชุมนุมโดยตรง อ่าแน่ก็แน่นอนล่ะจะมีบางคนอ้างว่าก็ไอ้การชุมนุมก็เลยทำให้ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินอย่างนั้นอ่าอันนี้ผมยกให้ หรือแม้การชุมนุมของเสื้อแดงปี๒๕๕๒ ที่เอารถแก๊สมาตรงแฟรตดินแดง มีคนตายที่สนามม้านางเลิง ๒ คน หรือเผารถเมล์ ก็ไม่ก่อให้เกิดผล นี่ขนาดใช้สิทธิ์ต่อต้านรัฐบาลแบบเต็มทีแล้วนะ ประกาศภาวะฉุกเฉิน มีศอฉ. ศอรศ.อะไรแล้วนะ ถามว่าดลบันดาลให้เกิดอะไรได้บ้าง ก็ไม่ กลับในปี๕๓ ยิ่งหนักเข้าไปอีกเนี่ย ไม่รู้เกิดอะไรขั้นบ้างน่ะ มีเหตุการณ์จราจล บริษัท ออฟฟิตประชาชนถูกเผา ห้างสรรพสินค้าถูกเผา สถานที่ราชการถูกเผา มีปาระเบิด มีอะไร แล้วไง ก็ไม่ได้ล้มรัฐบาล เพียงแต่ย่นเวลาทำให้การเลือกตั้งมันเร็วขึ้น สุดท้ายก็เป็นเรื่องการเลือกตั้ง เห็นไหมนี่ประชาชนทำเต็มที่ทั้ง ๒ ฝ่ายก็ไม่เห็นจะไปล้มอะไรได้ การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองจริงๆเนี่ยมันพ้นมือประชาชน เพราะฉะนั้นผมถึงบอกว่า ถ้าเราเอากันแบบประเภทรวบรัดตัดตอนเอาแบบสั้นย่อ มันก็คลุมๆเครือๆ ที่ผมลำดับมาทั้งหมดนี่ก็เพื่อให้ท่านเอาไปคิดต่อ ผมไม่อยากแนะนำอะไรมากแล้วผมเบื่อคือทุกคนเก่งๆกันทั้งนั้น ถ้าเข้าใจหัวใจของเรื่องมันเกิดจากอะไรแล้ว ถึงจะหงุดหงิดรำคราญใจก็บริหารจัดการได้ ก็วนๆเวียนๆอยู่ ถ้าท่านขี้เกลียดดูขี้เกลียดฟังก็ปิดโทรทัศน์ปิดวิทยุ แต่ว่าอย่าไปทิ้ง อย่าไปละเลย เราก็ต้องติดตามๆสมควร นี่ถ้าหากว่าสถานการณ์เศรษฐกิจมันไม่ย่ำแย่อย่างนี้นะมันก็พอทำเนา ผมเรียนผู้ฟังตามตรงว่าผมโครตเป็นห่วงเลย เรื่องเศรษฐกิจ เรื่องทำมาหากินเนี่ย มันไม่ค่อยดีจริงๆนะ บ้างคนมีแต่กระเป๋าจริงๆนะ รายได้ชักหน้าไม่ถึงหลังจริงๆนะ ยิ่งคนเพิ่งจะทำงาน ยิ่งคนเพิ่งจะทำมาหากิน เพิ่งจะเก็บสะสมสมบัตินี่ สำหรับผมเองนี่ผมระมัดระวัง ก็เคยบอกท่านหลายทีแล้วว่า เคล็ดรับให้การบริหารจัดการเรื่องสตุงสตางค์ส่วนตัวนี่ จะไม่ให้มันเกิดวิกฤตทางการเงินส่วนตัวมีเรื่องเดี่ยวทำนั้นหัวใจมันอยู่ตรงนี้ว่า "ไม่มีหนี่" ถ้ามีก็มีให้น้อยที่สุดเท่าที่จะมีได้ และไอ้ที่มีให้น้อยที่สุดเท่าที่จะมีได้นี่ก็ขอให้เป็นหนี่ที่มันเหมาะควร เป็นหนี่ที่มีเหตุมีผล ผมไม่ได้คัดค้านใครที่อยากไปเป็นหนี่เป็นสินนะ แต่ว่าถ้าลำพังแค่ประเดี๋ยวประด๋าวซื้อของมากินมาใช้อย่างนี้ท่านก็ต้องไตร่ตรองให้ดีว่าอันไหนเหมาะควร แต่อันนี้มันเป็นพระอุดเป็นเครื่องมือเดียวเป็นหัวใจสำคัญที่จะรับมือกับสถานการณ์เศรษฐกิจให้ช่วงอย่างนี้ ถ้าเป็นช่วงเศรษฐกิจแบบว่าเดินไปได้หาเงินได้ง่ายจับจ่ายใช้สอยได้คล่องมือเงินเข้าทางซ้ายเงินออกทางขวาตลอดอย่างนี้ไม่เป็นอะไร แต่ถ้าซ้ายไม่เข้าขวาออกอย่างเดียวอย่างที่กำลังเป็นอยู่ตอนเนี่ย ถ้าท่านไม่ได้มีภูมิต้านทางไม่ได้สร้างภูมิคุ้มกันเอาไว้ ผมรับประกันได้เลยว่าเสร็จ เสร็จแน่นอน จะเป็นรัฐบาลไหนก็เสร็ฐทั้งนั้นแหละ ตัวท่านน่ะเสร็จก่อน ไอ้คนที่เป็นรัฐบาลน่ะมีตังทั้งนั้นแหละคุณ ไม่ว่าจะเป็น ส.ส., ส.ว., ข้าราชการการเมือง รัฐมนตรี นักธุรกิจ คนที่ทำมาหากินที่เขามีมากกว่าท่านและเขามีช่องมีทางหาเงินได้มากกว่าท่านเขารอดทั้งนั้นแหละ ไอ้ท่านที่เชียร์การเมืองเหยงๆเนี่ยจะไม่รอดเอา
Tuesday, August 20, 2013
ผลิตผลในดงหญ้า
ฝนนี้หญ้าเยอะสูงระดับหัว เหยียบๆเอาก็ดูมันเรียบดีใช้ได้
ต้นนี้มี 1 ผล
นี่ต้นอะไรเอ่ย?
ต้นนี้ มี 2 ผล ทามกลางกอพง
...เมื่อน้ำใสกระจ่างแจ๋ว ก็จะมองเห็นหอยกาบ หอยโข่ง กรวด ทราย และฝูงปลาได้ชัดเจน ฉันใด...
เอวํ อนาวิลมฺหิ จิตฺเต
โส ปสฺสติ อตฺตทตฺถํ ปรตฺถํ
เมื่อจิตไม่ขุ่นมัว จึงจะมองเห็นประโยชน์ตน ประโยชน์ผู้อื่นได้ชัดเจน ฉันนั้น
เอวํ อนาวิลมฺหิ จิตฺเต
โส ปสฺสติ อตฺตทตฺถํ ปรตฺถํ
เมื่อจิตไม่ขุ่นมัว จึงจะมองเห็นประโยชน์ตน ประโยชน์ผู้อื่นได้ชัดเจน ฉันนั้น
เอาอะไร...ทำไมไม่ถางหญ้า
วันนี้มาถึงสวนสายหน่อย เพราะซ่อมอุปกรณ์ตัดไฟห้องเช่าให้พ่อ พอมาถึงสวนก็เจอน้า(ผู้หญิง)คนหนึ่งกำลังเดินเข้าไปในพื้นที่(ฝั่งเหนือถนนบางชัน) สักพักก็เดินออกมาพร้อมหน่อกล้วย พอเห็นผมดูสีหน้าเขาจะเป็นกังวล มองดูเขาสักพักเพื่อเปิดโอกาสให้เขาพูด ในเมื่อเขาไม่พูดก็เลยถามว่า"มาทำอะไร" เขาก็ตอบว่า"เอาหน่อกล้วย เพราะขุดง่าย" จึงบอกไปว่า"เหยียบขี้เหล็กผมบ้างหรือเปล่า ปลูกไว้เป็นแถวตลอดแนว" เขาพูดออกมาว่า"ไม่เห็นเลย ทำไมไม่ถางหญ้าล่ะ?จะได้โล่ง" ผมตอบคำถามนี้ในใจ(เพราะไม่ตรงประเด็น) จึงทิ้งช่วงคำถามต่อไปสักระยะ"น้าชื่ออะไร? ครับ" "ชื่อนี น้าจันดีรู้จัก"แกตอบมา สังเกตุเห็นรถเข็นพ่วงมอเตอร์ไซด์มีหน่อกล้วยประมาณ 5 หน่อ แล้วแกก็จากไป
มาสำรวจสวนดีกว่า ตั้งใจว่าวันนี้จะจัดการหญ้าให้เข้ารูปเข้ารอยหน่อย
มาสำรวจสวนดีกว่า ตั้งใจว่าวันนี้จะจัดการหญ้าให้เข้ารูปเข้ารอยหน่อย
ผักหวานป่า
มะละกอขึ้นเอง สงสัยนกมาเกาะหลักแล้วขี้ลงหลุมไปพอดี
แคขาว 2 สัปดาห์
พริกอะไรจำไม่ได้ เพื่อนบ้านที่กรุงเทพฯให้เม็ดมาน่าจะสองปีแล้วมัง บอกว่านำมาจากกาญจนบุรี เก็บเอาไปให้แม่ทำกับข้าว เห็นว่าหอมดี
ปลูกไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
นี่ก็ขึ้นเองบนคันที่เก้า
กล้วยน้ำว้าปลูกสัปดาห์ที่แล้ว
ปญฺญาชีวี ชีวิตมาหุ เสฏฺฐํ
ปราชญ์ว่า ชีวิตที่อยู่ด้วยปัญญา ประเสริฐสุด
ปญฺญาชีวี ชีวิตมาหุ เสฏฺฐํ
ปราชญ์ว่า ชีวิตที่อยู่ด้วยปัญญา ประเสริฐสุด
เติบโตเท่าที่เห็น
ชมพูทับทิมจันทร์
มะฮอกกานี ความสูงเทียบกับด้ามจอบ(110cm.)
มะฮอกกานี
น้อยหน่า
กระท้อน
กระท้อน
มะพร้าวต้นนี้ยอดแห้งหลุดไปนานแล้ว จนบัดนี้ก็ยังไม่เห็นยอดใหม่ขึ้นมาแทน ไม่รู้ว่าจะอยู่ไปได้อีกนานแค่ไหน
น้อยหน่าเจริญทามกลางดงหญ้า
ขนุน
มะเฟืองยักษ์ 2 ต้น
ยถา ภุตฺตญฺจ พฺยาหร
จงทำงานให้สมกับอาหารที่บริโภค
ยถา ภุตฺตญฺจ พฺยาหร
จงทำงานให้สมกับอาหารที่บริโภค
Monday, August 19, 2013
กล้วยหอมทอง 40+1
กล้วยหอมทอง 41 หน่อ จากท่ายาง ได้มาเมื่อวันแม่(12 ส.ค.) ราคาหน่อละ 2 บาท ค่าขุดหน่อละ 4 บาท
กว่าจะได้ลงดินก็ผ่านไป 6 วัน
ยังดีที่ไม่เป็น 7 วัน เพราะที่ตั้งใจคือ วันอาทิตย์ที่ (18 ส.ค.) ตั้งใจจะมุงหลังคาโรงรถ แต่ปรากฎว่าอาไม่อยู่ จึงได้มาปลูกกล้วยก่อนกำหนด เริ่มปลูกประมาณ 11.00 น. ถึงประมาณหกโมงเย็น เสร็จไป 20 หน่อ
วันจันทร์(19 ส.ค.) เริ่มประมาณแปดโมงเช้า ปลูกเสร็จหกโมงเย็น
บวกไปบวกมา ทำไมได้ 41 หน่อ (เอาไว้นับใหม่)
แรกๆก็ใช้จอบถาก
น หิ จินฺตามยา โภคา อิตฺถิยา ปุริสสฺส วา
โภคะของใคร ไม่ว่าสตรีหรือบุรุษ ที่จะสำเร็จเพียงด้วยคิดเอาย่อมไม่มี
โภคะของใคร ไม่ว่าสตรีหรือบุรุษ ที่จะสำเร็จเพียงด้วยคิดเอาย่อมไม่มี
Monday, August 12, 2013
ปลูกต้นไม้วันแม่
Subscribe to:
Posts (Atom)